ผู้เขียน: Authenticjerseyscity

RENO, Nev. – เกราะป้องกันขีปนาวุธใหม่ที่เปิดตัวเมื่อต้นเดือนนี้สัญญาว่าจะได้รับการปกป้องแบบเดียวกันในส่วนของจำนวนมากตามผู้ให้บริการ AEGIX Global และ ATCS Swift Shield Compact เป็นชิลด์“ แรงบันดาลใจจากการพับกระดาษ” แบบพับได้ซึ่งมีน้ำหนักเบาและบางกว่ารุ่นก่อน ๆ Swift Shield Compact ยุบตัวลงตามความยาวและความกว้างของแล็ปท็อปทำให้สามารถสะพายเป้และกระเป๋าข้างได้ น้ำหนัก 4.8 ปอนด์ทำให้เบากว่า Swift Shield Pro’s 8.1 ปอนด์

“ เนื่องจาก Swift Shield Compact มีน้ำหนักเบาจึงช่วยให้เจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ได้รับการปกป้องที่เป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในสถานการณ์ทางยุทธวิธีมากขึ้นกว่าเดิม” Chet Linton ซีอีโอของ AEGIX Global กล่าวในแถลงการณ์ “ เวอร์ชันใหม่นี้สามารถจัดเก็บได้ง่ายกว่าเวอร์ชันดั้งเดิม เนื่องจากน้ำหนักเบาจึงสามารถพกพาและใช้งานได้เป็นระยะเวลานานตัวอย่างเช่นการเดินเท้าและสามารถถือไว้เหนือศีรษะได้อย่างง่ายดายในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องมีการป้องกันจากด้านบนเช่นเมื่อปีนขึ้นเนินหรือบันได “

เมื่อใช้งานเต็มรูปแบบ Swift Shield Compact มีขนาด 3.1 ตารางฟุตของการป้องกันขีปนาวุธ NIJ ระดับ IIIA (NIJ-STD-0108.01) ตามรุ่น โล่ได้รับการรับรองให้หยุดกระสุนปืนแบบดั้งเดิมเช่น 9 มม., 40 แคล, 45 แคลและ 357 แม็กนั่ม “ เมื่อเราเปิดตัว Swift Shield เป็นครั้งแรกเจ้าหน้าที่หลายคนเรียกมันว่าตัวเปลี่ยนเกมเนื่องจากการใช้วัสดุขั้นสูงประกอบกับน้ำหนักเบาและพับเก็บได้” วิลเลียมเบนซ์ซีอีโอของ ATCS กล่าวในแถลงการณ์ “ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเรามีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมและขอรุ่นที่เล็กกว่าเล็กน้อยซึ่งสามารถนำไปใช้กับจักรยานขี่ม้าหรือมอเตอร์ไซค์ลาดตระเวนได้ง่ายขึ้น เจ้าหน้าที่เหล่านั้นไม่ได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจากยานพาหนะลาดตระเวนที่จะใช้เป็นเครื่องกีดขวางเมื่อพวกเขาปฏิบัติหน้าที่”

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เวลา 12.28 นาที ที่จังหวัดสกลนคร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีคนประสบอุบัติเหตุถูกล้อรถสิบล้อ หลุดมากระแทกใส่ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ขณะนั่งเล่นเกมโทรศัพท์มือถืออยู่ภายในร้านขายโช๊ครถยนต์ ตรงข้ามทางเข้าหมู่บ้านสกลวิลเลจ ถนนกกส้มโฮง ตำบลธาตุนาเวง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร

ในที่เกิดเหตุพบล้อรถสิบล้ออยู่ภายในร้าน ข้าวของในร้านพังเสียหายเล็กน้อย ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ทราบชื่อคือ นายธวัชชัย จันทะเกษ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลและเป็นช่างภายในร้าน ได้รับบาดเจ็บมีแผลฟกช้ำ และแผลถลอกที่บริเวณลำตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เก็บหลักฐาน สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ขับขี่รถบรรทุก พร้อมทั้งให้ประสานบริษัทประกันภัยเพื่อให้เข้าตรวจสอบ และประเมินค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อให้รับผิดชอบและดูแลค่ารักษาพยาบาลต่อไป

ล่าสุดวันนี้ (26 พ.ค. 64) ผู้สื่อข่าวได้เดินไปติดตามความคืบหน้า พบนายธวัชชัย จันทะเกษ อายุ 24 ปี ผู้ดูแลร้านและเป็นช่างภายในร้าน ซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เล่าว่า ขณะนั้นตนนั่งเล่นเกมโทรศัพท์อพร้อมใส่หูฟังอยู่ภายในร้าน อยู่ดีๆ ก็รู้สึกวูบไปเลย ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าโดนอะไร พี่ชายตนจึงมาดึงตนขึ้น พอตั้งสติได้เลยทราบว่ามีล้อรถสิบล้อหลุดมากระแทกตนจนได้รับบาดเจ็บ โดยล้อได้กระแทกกระทบกับผนังของร้านก่อน จึงมากระแทกตน ทำให้ไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ ตนอยากฝากเตือนให้เราต้องระวังตัวเองเสมอ คอยดูรถที่ผ่านไปผ่านมา เพราะก็ไม่คิดว่าล้อรถจะหลุดมากระแทกตัวเองได้ โดยตนได้แจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว โดยนัดไปคุยเรื่องค่าเสียหายที่โรงพักวันนี้ (26 พ.ค. 64) ซึ่งมีของในร้านพังเสียหาย และก็ได้รับบาดเจ็บ

รัฐบาลอินโดนีเซียเปิดเผยในวันอาทิตย์ว่า พบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัส 42 รายในกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ที่ให้การรักษาลูกเรือชาวฟิลิปปินส์ 13 คนที่ล้มป่วยจากโควิด-19 และกำลังตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดอีกหลายสิบคนว่าติดเชื้อด้วยหรือไม่ผู้ว่าการจังหวัดชวากลางของอินโดนีเซีย กานจาร์ ปราโนโว กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ลูกเรือของเรือสินค้าติดธงปานามา Hilma Bulker ถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19 หลังจากเดินทางจากอินเดียมาถึงท่าเรือในจังหวัดชวากลางเมื่อวันที่ 25 เมษายน หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่การแพทย์อินโดนีเซียราว 140 คนที่ใกล้ชิดลูกเรือเหล่านั้น ซึ่งขณะนี้พบว่ามี 42 คนที่ติดเชื้อไปแล้ว

ผลการตรวจสอบทางพันธุกรรมพบว่า ลูกเรือฟิลิปปินส์ 13 คนนั้นติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ B.1617.2 ซึ่งพบในอินเดียเป็นแห่งแรก ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้วหนึ่งราย โดยลูกเรือทุกคนของเรือสินค้าลำดังกล่าวถูกกักตัวอยู่บนเรือ และเวลานี้เรือได้เดินทางออกจากจังหวัดชวากลางมุ่งหน้าไปยังกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์แล้วปัจจุบัน อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 1.7 ล้านคน เสียชีวิต 49,000 คน ถือเป็นประเทศที่มีการระบาดมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกังวลว่า การเฉลิมฉลองและการเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลอีดัลฟิฏร์ของชาวมุสลิม จะยิ่งทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว อินโดนีเซียเริ่มใช้มาตรการงดการออกวีซ่าให้กับชาวต่างชาติที่มาจากอินเดียหรือเพิ่งเดินทางไปอินเดีย เป็นการชั่วคราวแล้ว

ศบค.สั่งเข้มงวดผู้ลักลอบเข้าเมืองนายเเพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) กล่าวถึงผลการประชุมศบค.ว่า สถิติการลักลอบเข้าเมืองมีทุกวัน ในวันนี้ยังมีอยู่ 191 คน พม่า 65 คน, กัมพูชา 64 คน, ลาว 19 คน นี่คือสิ่งที่เป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นขอให้มั่นใจว่า มีผู้ที่ทำผิดกฎหมายที่ต้องถูกดำเนินคดีอยู่เรื่อย จึงขอร้องว่าให้เกิดเรื่องเช่นนี้อีก แม้ทางการจะเข้มงวด แต่ขอให้เข้ามาอย่างถูกต้อง

ขณะที่ระบบป้องกัน คนที่ข้ามแดนผ่านมา จะมีสถานที่กักกัน ระบบเฉพาะองค์กร ซึ่งได้รับความร่วมมือจะกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้จัดทำโดยใช้พื้นที่ของตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมเปิดทำการใช้เป็นพื้นที่กักตัวก่อนเข้าพื้นที่ชั้นใน แล้ว 5 แห่ง ในจ.กาญจนบุรี 1 แห่ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ 1 แห่ง และจ.ตาก 3 แห่ง และตอนนี้กำลังจะเปิดเพิ่มอีกหลายแห่งทั่วประเทศ

ศบค.ห่วง 28 คลัสเตอร์ เป็นแคมป์ก่อสร้าง 6 แห่ง เร่งปูพรมตรวจหาเชื้ออย่างเต็มที่ มี 20 จังหวัดพบเชื้อเป็นศูนย์แล้ว

นายเเพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน กล่าวถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ว่า ยังคงเป็นกรุงเทพฯมหานครเป็นอันดับหนึ่ง และรองลงมาเป็นพื้นที่ปริมณฑล ซึ่งมากกว่าจังหวัดอื่นๆ อยู่เป็นเท่าตัว ซึ่งกทม.ยังอยู่ในภาวะที่ไม่น่าไว้วางใจ การติดเชื้อที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ประชาชนต้องตื่นตัวแต่ไม่ตื่นตระหนก และต้องช่วยกัน เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีการปูพรมเพื่อตรวจหาเชื้ออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นคลัสเตอร์ใหม่ ซึ่งในการตรวจหาเชื้อ ในตลาดบางกะปิมีการตรวจ 845 คน พบเชื้อ 137 คน ดังนั้น ในพื้นที่ตลาดบางกะปิและบริเวณใกล้เคียงซึ่งต้องควบคุมป้องกันโรงโดยเร่งด่วนประชาชนโปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

สำหรับครัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังมีทั้งหมด 28 แห่ง คลัสเตอร์เฝ้าระวังสูงสุด 20 แห่ง คลัสเตอร์ระดับเฝ้าระวัง 2 แห่ง และคลัสเตอร์พบใหม่ เป็นแคมป์ก่อสร้าง 6 แห่งสำหรับจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเป็น 0 ประกอบด้วย นครสวรรค์, พิษณุโลก, ลำพูน, ลำปาง, เพชรบูรณ์, ตราด, สุโขทัย, กาฬสินธุ์, พะเยา, สิงห์บุรี, เลย, อุตรดิตถ์, แพร่, ชัยนาท, หนองคาย, พังงา, แม่ฮ่องสอน, อำนาจเจริญ, หนองบัวลำภู และมุกดาหาร

 

(16 พ.ค.64) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพชวนขนหัวลุก ซึ่งเป็นภาพชายสวมชุดสีกากีแต่ไม่มีศีรษะ พร้อมระบุข้อความว่า “ถ่ายรูปไม่ติดหัว เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม  ผมไม่ได้ลบหลู่บุคคลนาภาพนะครับ” ซึ่งก็มีการแชร์ต่อภาพดังกล่าว และมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก  บางคนก็มองว่าเป็นเรื่องสิ่งลี้ลับ บางคนก็อาจจะเกิดจากมุมกล้องหรือมีกิ่งไม้บังตรงที่ชายคนดังกล่าวยืนพอดี   

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถาม นายเลิศสกุล อายุ 42 ปี อาสากู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ คนที่ถ่ายภาพดังกล่าว เล่าว่า วันที่ถ่ายภาพ คือวันที่ 14 พ.ค. ตนได้กับทีมงานอาสากู้ภัยฯ หลายคน ได้ไปร่วมอำนวยความสะดวกกิจกรรมที่หน่วยงานราชการ ร่วมกับทางพระสงฆ์ นำสิ่งของไปมอบให้กับผู้ยากไร้ที่หมู่บ้านตาจง อำเภอละหารทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งระหว่างที่ตนนั่งอยู่ในรถช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ก็ได้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปทีมงานอาสากู้ภัยฯ  ขณะยืนอำนวยความสะดวกให้กับรถ และชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมา จากนั้นก็ส่งภาพที่ถ่ายเข้าในเฟซบุ๊กกลุ่มกู้ภัยฯ เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจของหน่วยตามปกติ    

จากนั้นก็มีทีมงานอาสากู้ภัยฯ ที่เข้าไปดูเฟซบุ๊กโทรกลับมาบอกตนเองว่าภาพที่ถ่ายมีชายสวมชุดสีกากีคนหนึ่งไม่มีศีรษะ ซึ่งตนก็ตกใจเพราะตอนที่ถ่ายก็ไม่ได้เปิดดูภาพก่อน แต่พอเข้าไปดูอีกรอบก็เห็นภาพชายสวมชุดสีกากีคนหนึ่งซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะวันนี้มีคนมาร่วมกิจกรรมหลายคน  

โดยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาล Bytco Hospital เกิดเหตุ นายราเจนดรา ทัชนี แกนนำระดับท้องถิ่นของพรรคภารตียชนตา หรือ บีเจพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของอินเดีย ในเมืองนาสิก รัฐมหาราษฏ์ ประเทศอินเดีย ก่อเหตุขับรถชนบานกระจกประตูทางเข้า และพยายามโจมตีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่า บิดาของนายราเจนดรา ทัชนี เพิ่งเสียชีวิตหลังจากเข้ารักษาตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยเขาอ้างว่าโรงพยาบาลไม่ดูแลพ่อเขาให้ดี

Today, husband of a BJP Corporator in Nashik rammed his car right through a hospital out of rage!

On one side where the whole country is appreciating and thanking the medical staff, such acts are deplorable and the guilty should be given maximum punishment!
Shameful! pic.twitter.com/uOpUkGSe0X

— Varun Sardesai (@SardesaiVarun) May 15, 2021

ขณะก่อเหตุ นายราเจนดรา ทัชนี ได้ตะโกนว่าพวกคนไข้ควรได้รับออกซิเจน เครื่องช่วยหายใจ และเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาล และควรหยุดฉีดเรมเดซิเวียร์จากตลาดมืดให้คนไข้เสียที และยังขว้างอิฐบล็อกทางเท้าใส่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล และข่มขู่ญาติของคนไข้รายหนึ่ง เคราะห์ดีที่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครได้รับบาดเจ็บทั้งนี้ หลังก่อเหตุนายราเจนดรา ทัชนี ได้ออกไปจากที่เกิดเหตุ และอยู่ระหว่างการหลบหนีอยู่ ด้าน ตำรวจไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม โดยบอกว่ายังอยู่ระหว่างสืบสวน

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า “วัคซีน และ คงวินัย รักษาระยะห่าง คนไทยได้วัคซีนครบ 2 เข็มแล้วก็ตามอย่ามั่นใจ สายพันธุ์เพี้ยน อินเดีย แอฟริกา ไฟเซอร์ โมเดอร์นา ครบ 2 เข็มในสิงคโปร์ยังติดเชื้อได้”นอกจากนี้ยังระบุ อีกกว่า สายพันธุ์ที่ต้องจับตาสูง จนถึงกลายเป็นสายก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรง? 12/5/64 15/5/64 ในสิงคโปร์ พบสายอินเดียในชุมชนเองแล้ว และที่ติดสายอินเดียเป็นคนได้วัคซีน ไฟเซอร์ โมเดอนา ครบ 2 แล้ว โควิด ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนหน้าตาจนกลายเป็นที่เรียกว่าสายพันธุ์ ที่ต้องจับตามองด้วยความกังวลสูง ( variant of high global concern ) ไปจนถึงที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่อง (high consequence) ล้วนแล้ว แต่เกิดจากการระบาดที่รุนแรงแรงกว้างขวางจนเกิดการวิวัฒน์ ให้มีความเก่งกาจขึ้น (gain of function)

ตั้งแต่ สายอังกฤษ แอฟริกาใต้บราซิลฟิลิปปินส์และจนอินเดีย ที่ถูกจัดจากองค์การอนามัยโลกให้ทั่วโลกจับตา และในอีกไม่ช้าไม่นาน ถ้าสถานการณ์คุมไม่ได้ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งก็จะเกิดมีสายใหม่เกิดขึ้นอีก ในส่วนของสายอินเดีย ที่มีการตรวจพบมานานพอสมควรในประเทศไทย หลายรายด้วยกันแล้ว ในสถานกักตัวทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตจากหมอและนักวิทยาศาสตร์อินเดียและหลายกลุ่ม ในไวร้สสายนี้มานานพอสมควร ที่ว่าสามารถ “จับลึก” นั่นก็คือไถลลงไปจับกับหลอดลมส่วนลึกและถุงลมแทนที่จะเป็นโพรงจมูกและลำคอ “จับแน่น” ทำให้มีความสามารถในการติดเชื้อได้เก่งขึ้นและจากนั้นแพร่ได้ง่ายขึ้น “หลีกหนี” การมองเห็นการเฝ้าระวังตรวจตราของระบบป้องกันและภูมิคุ้มกันที่ได้จากวัคซีน ทั้งนี้ยังหมายควบรวมไปถึงภูมิคุ้มกันที่ได้จากการติดเชื้อครั้งแรกจากโควิดธรรมดา และเมื่อติดเชื้อสายใหม่นี้ สามารถมองเห็นจับได้

แต่ไม่ยับยั้งไวรัสและกลับจับไวรัสไปส่งให้ เซลล์ที่มีหน้าที่ป้องกันไวรัส โดยมีหน้าที่ทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อ แต่กลับปล่อยสารอักเสบขึ้นมาแทนเลยเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อและต่อทุกระบบในร่างกาย ถือเป็น “บาป” ที่ภูมิคุ้มกันไม่รู้จักปรับตัวพัฒนาขึ้นมาสู้กับของใหม่ (original antigenic sin: ที่ทราบกันมาตั้งแต่ปี 1960) และในลำดับต่อไป ถ้าไวรัสมีการปรับเปลี่ยนส่วนท่อนต่างๆ ที่ปกติออกแบบมาอยู่แล้วเพื่อก่อโรคให้มีความรุนแรง และกลับรุนแรงขึ้นไปอีก จนมีปัญหาในการรักษาและรวมไปกระทั่งถึงดื้อยาที่ใช้ได้ผลอยู่ในปัจจุบัน จะกลายเป็น สายที่ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างสูงทั้งหมดนี้สามารถชนะได้ด้วยวัคซีนพร้อมกับมีวินัยทั้งทางบุคคล และทางสังคมอย่างเข้มข้น พยายามสงบการระบาดให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่อย่างไรก็ตามสายใหม่เหล่านี้ ต้องเล็ดลอดเข้ามาไม่ช้าก็เร็ว และแพร่ระหว่างคนไทยสู่คนไทย แต่ทั้งหมดเพื่อเป็นการซื้อเวลา เพื่อรอวัคซีนพัฒนารุ่นที่สองต่อไป

ต้องยอมเลยว่าในสหรัฐยังมีการเหยียดชนชั้นและสีผิวกันอยู่และเราจะเห็นข่าวออกมาอยู่เรื่อยว่ามีการทำลายคนผีดำจากคนผิวขาว และนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่ต่างคนต่างมีข้อคิดเห็นไม่เหมือนกัน โดยเอริก เนลสัน ทนายขงชอวิน ยื่นคำร้องต่อศาลโดยอ้างอิงหลายปัจจัย อาทิความไม่เป็นธรรมการจัดการที่ผิดพลาดของการตัดสินคดีและคณะลูกขุนความผิดพลาดด้านการใช้กฏหมายในการพิจารณาดคีและคำตัดสินที่ขัดต่อกฏหมาย

ตำรวจจึงเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา มีโอกาสติดเชื้อจากการทำงาน ทำหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันปราบปรามการติดตามจับกุมคนร้ายที่ตำรวจไม่มี ทางรู้เลยว่า พยานที่เรียกมาสอบ คนร้าย หรือผู้ต้องหาติดโควิด-19 งานตำรวจ ที่ต้องเข้าไปดูแลแต่ละพื้นที่มีผู้ติดโควิด-19 มากน้อยแค่ไหน ถึงจะเป็นพื้นที่เสี่ยงตำรวจยังต้องทำงานบทบาทหน้าที่ตรงนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เห็นปัญหาและเป็นห่วงลูกน้องตำรวจ

ยิ่งมีกรณีการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนภาค 7 ที่ติดเชื้อโควิด-19 จากการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย และมาเสียชีวิตระหว่างกักตัว 14 วัน รวมทั้งตำรวจสันติบาลที่อยู่คนเดียวในแฟลตตำรวจ เสียชีวิต ด้วยโรคประจำตัว เป็นข้อสงสัยที่ว่า ผู้บังคับบัญชาในสังกัดลงมาดูแลเอาใจใส่ลูกน้องตำรวจขนาดไหน

ผบ.ตร.ขอให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดทุกหน่วยนำทั้ง 2 เหตุการณ์นี้มาเป็น “บทเรียน” ในการทำงานของตำรวจทุกหน่วย ก่อนจะเข้าไปทำการตรวจค้นจับกุม หรือพบปะพี่น้องประชาชน ให้เตรียมการป้องกันตนเองอย่างดี หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ต้องพร้อมติดตัว นายต้องลงมาใส่ใจลูกน้อง

สำหรับเนื้อผ้าชุดสนามสีกากี พยายามเลือกที่มีความบางเบา ระบายเหงื่อได้ดี เพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ ก็พยายามให้ผู้ปฏิบัติทดลองใส่ว่าเหมาะสมทำงานสะดวกกว่าหรือไม่ อย่างไรก็ตาม วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564 พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปราม จะแถลงรายละเอียด เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายจะทดสอบชุดปฏิบัติงาน ว่าเหมาะสมหรือไม่ และประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร หากผู้ปฏิบัติบอกว่าเหมาะสม ชาวบ้านรับได้ ก็อาจจะใช้เครื่องแบบนี้ แต่ว่าเครื่องแบบเดิมก็ไม่ได้ยกเลิก จะใช้สำหรับสายปฏิบัติเท่านั้น